Page 5 -
P. 5
PERFORMANCE
IMPROVEMENT
PLAN@WORK
ดร.สุพจน์ นาคสวัสดิ์
ค�าน�า HR Center
ี
ปัญหาเก่ยวกับการบริหารจัดการพนักงานในองค์กรโดยเฉพาะองค์กรไทย ๆ แบบ
ึ
ี
ี
ั
ึ
บ้านเราท่ต้งกันมานานแล้ว ปัญหาหน่งก็คือ ปัญหาเก่ยวกับ “คนหมดไฟ” ซ่งย่งถ้าองค์กร
ิ
�
ไม่มีเคร่องมือหรือระบบท่จะบริหารจัดการคนเหล่าน้ นานวันเข้าก็จะย่งเพ่มจานวนคน
ื
ี
ิ
ิ
ี
แบบนี้สะสมขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวแบบติดตลกไว้ว่า “พอมากเข้า ๆ ก็แทบจะ
ตั้งเป็นแผนกคนหมดไฟ” ได้เลยทีเดียว
ื
เช่อว่ามีหลาย ๆ องค์กรท่มีปัญหาแบบน้อยู่แต่ไม่รู้ว่าจะหาวิธีการจัดการกับ
ี
ี
ื
พนักงานประเภทน้ท่เป็นระบบได้อย่างไร เพ่อให้พวกเขากลับมามี “ไฟ” ในการทางาน
ี
�
ี
้
้
้
อันจะท�าใหผลงานของพวกเขาปรับปรุงดีขึ้นจนไดมาตรฐานที่บริษัทก�าหนดหรือตองการ
ี
ด้วยระบบท่สมเหตุสมผล ชัดเจน เป็นรูปธรรมว่าแต่ละคนจะต้องปรับปรุงตนเองอะไร
อย่างไรบ้าง แค่ไหน ตามขอบเขตระยะเวลาที่ก�าหนดไว้ ใครที่สามารถปรับปรุงได้ ก็เป็น
�
โอกาสท่ตนเองจะก้าวต่อไปได้ในวิถีการทางานกับองค์กร แต่ถ้าไม่สามารถ ก็ต้องยอมรับ
ี
ผลและกติกาขององค์กรซ่งอยู่ภายใต้ความถูกต้องของกฎหมายแรงงาน โดยหนังสือ
ึ
เล่มน้ท่ช่อว่า “Performance Improvement Plan@work โปรแกรมปรับปรุงผลการปฏิบัติงาน
ี
ื
ี
ของพนักงาน... สู่วัฒนธรรมการท�างานที่มุ่งเน้นผลงาน” เขียนโดย ดร.สุพจน์ นาคสวัสดิ์
ี
ี
จะช่วยไขความกระจ่างเก่ยวกับโปรแกรม PIP ว่าโปรแกรมน้คืออะไร และจะช่วยปรับปรุง
ี
ี
ผลการปฏิบัติงานของพนักงานท่มี “ผลงานไม่ดี” ได้อย่างไร มีวิธีการใช้โปรแกรมน้อย่างไร
โดยหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมความรู้ องค์ประกอบ และขั้นตอนการใช้โปรแกรม PIP อย่าง
เป็นขั้นเป็นตอน รวมถึงมีตัวอย่างการจัดท�าโปรแกรม PIP ของพนักงานถึง 20 ต�าแหน่ง
�
อาทิเช่น ตาแหน่งผู้จัดการโรงงาน, ตาแหน่งหัวหน้าฝ่ายผลิต, ตาแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ
�
�
ื
ั
ี
�
จัดซ้อ, ตาแหน่งหัวหน้างแผนกบุคคล เป็นต้น เพ่อให้ผู้อ่านท่มีท้งผู้บริหารองค์กรและ
ื
ผู้บริหารงานทรัพยากรมนุษย์ สามารถน�าความรู้และตัวอย่างดังกล่าวไปปรับประยุกต์ใช้
ตามความเหมาะสมกับบริบทขององค์กรตนเองได้อย่างไม่ยากนัก
ี
ี
หวังว่าหนังสือเล่มน้จะเป็นหนังสืออีกเล่มหน่งท่มีประโยชน์อย่างมากต่อวงการ
ึ
�
ี
บริหารทรัพยากรมนุษย์ในบ้านเรา เพราะหากองค์กรสามารถนาความรู้น้ไปประยุกต์ใช้
�
ี
ึ
ี
กับพนักงานของตนจนสามารถทาให้พนักงานท่หมดไฟกลับมามีผลงานท่ดีข้น สามารถ
ี
ี
�
่
ี
ไปต่อกับองค์กรได้ องค์กรก็จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายท่ต้องทนจ้างคนเหล่าน้ในผลงานท่ตา
�
ซ่งถ้าจานวนคนเหล่าน้มีมากเกินไป ก็จะกลายเป็นตัวฉุดให้ผลงานโดยรวมขององค์กร
ี
ึ
ต�่าลงตามไปด้วย
ด้วยความปรารถนาดี
ทีมงาน เอช อาร์ เซ็นเตอร์