Page 16 -
P. 16
ไพศาล เตมีย์ 15
มีบริษัทแห่งหนึ่ง รับโอนลูกจ้างมาจากบริษัทอีกแห่งหนึ่งที่มี
การจ่ายเงินเดือนเดือนที่ 13 ก็เลยต้องรับสภาพการจ้างนี้มาด้วย
ต่อมามีการเลิกจ้างลูกจ้าง ปรากฏว่าลูกจ้างน�าคดีไปฟ้องศาลว่าจ่าย
ค่าชดเชยและเงินต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายเมื่อให้ออกจากงานไม่ครบเนื่องจาก
ไม่ได้เอาเงินเดือนเดือนที่ 13 มาเป็นฐานค่าจ้างในการคิดค�านวณ
ว่าไปแล้ว เวลาเลิกจ้างพนักงาน ก็แทบไม่มีองค์กรไหนที่เอา
เงินโบนัสมาคิดเป็นฐานค่าจ้างเพื่อค�านวณค่าชดเชยหรอกครับ กรณีนี้
ก็เช่นกัน เขาไม่ได้เอาเงินเดือนเดือนที่13 มาเป็นฐานคิดค�านวณเพราะ
เห็นว่านั่นเป็นเงินโบนัส
เรื่องนี้ก็สู้กันไปถึงศาลฎีกา ปรากฏว่าศาลตัดสินว่า เงินเดือน
เดือนที่ 13 ที่ก�าหนดกันอย่างที่เล่ามานั้น “เป็นค่าจ้าง” นายจ้างไม่ได้
เอามารวมเป็นฐานค่าจ้างในการคิดเงินต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายเมื่อให้
ออกจากงาน จึงแพ้คดีไปตามระเบียบ
ผมน�าเอาเรื่องนี้มาเขียน เพราะอยากให้องค์กรต่าง ๆ ระมัดระวัง
ประเด็นนี้ อย่าเผลอไปเรียก “โบนัส” ว่า “เงินเดือนเดือนที่ 13” จนเป็น
ที่เข้าใจกันทั่วไปว่าต้องได้เงินเดือนเดือนที่ 13 เป็นการประจ�าทุกปี
เพราะอาจไปเข้าข่ายว่าเป็น “ค่าจ้าง” ได้
ที่ส�าคัญก็คือ เรื่องจะไม่จบแค่เรื่องค่าชดเชยเพียงอย่างเดียว
เรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคิดค่าล่วงเวลา ค่าท�างานในวันหยุด
อีกทั้งเรื่องของเงินสมทบประกันสังคม ล้วนต้องใช้ค่าจ้างเป็นฐาน
ในการคิดค�านวณทั้งสิ้น ซึ่งก็จะพาลมีประเด็นไม่ถูกต้องไปหมด